Showing posts with label สาระการจักประของแสงสว่าง. Show all posts
Showing posts with label สาระการจักประของแสงสว่าง. Show all posts

Wednesday, September 4, 2013

What kind of the Lights ประเภทของแสงสว่าง




แสงสว่างถือเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่ตื่นนอน เดินทาง ทำงาน ทานอาหาร หรือทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ช็อปปิ้ง ออกกำลังกาย พักผ่อน จนกระทั่งเข้านอน เราจะมีแสงสว่างอยู่รอบๆ ตัวเสมอ แสงสว่างยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน แสงและเงาทำให้เกิดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จทางธุรกิจ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

ในการออกแบบไฟแสงสว่างเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนในงานสถาปัตยกรรม ให้เกิดมิติความสวยงาม สร้างบรรยากาศและความปลอดภัยสำหรับอาคาร การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเกร็ดความรูŒเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้ามที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้แสงสว่างสร้างบรรยากาศในแต่ละพื้นที่ได้ดี

ชนิดของหลอดไฟฟ้า

หลอดไฟฟ้าแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
        1.) หลอดอินแคนเดสเซ็นต์ หรือหลอดเผาไส้ เป็นหลอดมีไส้ที่มีประสิทธิผล (Efficacy) ต่ำ และมีอายุการใช้งานสั้นในเกณฑ์ประมาณ 1,000-3,000 ชั่วโมง หลอดประเภทนี้มีอุณหภูมิสีประมาณ 2,800 องศาเคลวิน แต่ให้แสงที่มีค่าความถูกต้องของสี 100 %
        2.) หลอดปล่อยประจุ เป็นหลอดที่ไม่ต้องใช้ไส้หลอด หลอดในตระกูลนี้ ได้แก‹

หลอดฟลูออเรสเซ็นต์ หลอดเป็นหลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำ สีของหลอดมี 3 แบบคือ Daylight, Cool white และ Warm white ชนิดของหลอดที่ใช้งานกันทั่วไปคือแบบ Linear ขนาด 18 และ 36 วัตต์ และ Circular 22, 32 และ 40 วัตต์  และมีประสิทธิผลประมาณ 50-90 ลูเมนต่อวัตต์ ถือได้ว่าสูงพอสมควรและประหยัดค่าไฟฟ้าเมื่อเทียบกับหลอดอินแคนเดสเซ็นต์ซึ่งมีค่าประมาณ 5-13 ลูเมนต่อวัตต์ และมีอายุการใช้งาน 9,000-12,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีหลอดฟลูออเรสเซ็นต์รุ่นใหม่ คือหลอดที่มีฟลักซ์การส่องสว่างสูง ประสิทธิภาพสูง หรือที่เราเรียกวา‹“หลอด T5” หลอดฟลูออเรสเซ็นต์รุ่นใหม่นี้มีขนาดเล็กมาก คือมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 16 mm (หรือ 5/8 นิ้ว) มีรหัสเรียกว่า หลอด T5 แต่หลอดประเภทนี้จะต้องใช้ร่วมกับบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์

หลอดคอมแพ็คฟลูออเรสเซ็นต์ เป็นหลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำ สีของหลอดมี 3 แบบ คือ Daylight, Cool white และ Warm white เช่นเดียวกันกับหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ แบบที่ใช้งานกันมากคือ หลอดเดี่ยว มีขนาดวัตต์ 5, 7, 9, 11 วัตต์และหลอดคู‹ มีขนาดวัตต์ 10, 13, 18, 26 วัตต์ เป็นหลอดที่ พัฒนาขึ้นมาแทนที่หลอดอินแคนเดสเซ็นต์ โดยมีประสิทธิผลสูงกว่าหลอดอินแคนเดสเซ็นต์ คือประมาณ 35-80 ลูเมนต่อวัตต์ และอายุการใช้งานประมาณ 7,500-10,000 ชั่วโมง

หลอดโซเดียมความดันไอต่ำ หลอดประเภทนี้มีสีเหลืองจัดและประสิทธิผลมากที่สุดในบรรดาหลอดทั้งหมด คือมีประสิทธิผลประมาณ 100-180 ลูเมนต่อวัตต์ แต่ความถูกต้องของสีน้อยที่สุด คือ มี ความถูกต้องของสีเป็น 0-20 % ข้อดีของแสงสีเหลืองเป็นสีที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ดีที่สุด หลอดประเภทนี้จึงเหมาะที่จะใช้เป็นไฟถนน และอายุการใช้งานนานประมาณ 22,000-24,000 ชั่วโมงหลอดมีขนาดวัตต์ 18, 35, 55, 90, 135 และ180 วัตต์

หลอดโซเดียมความดันไอสูง หลอดโซเดียมความดันไอสูงมีประสิทธิผลรองจากหลอดโซเดียมความดันไอต่ำ คือ มีประสิทธิผลประมาณ 70-130 ลูเมนต่อวัตต์ แต่ความถูกต้องของสีดีกว่าหลอดโซเดียมความดันไอต่ำ คือ 30-50 % และมีอุณหภูมิสีประมาณ 2,500 เคลวิน ซึ่งจัดว่าเป็นอุณหภูมิสีต่ำเหมาะกับงานที่ไม่ต้องการความส่องสว่างมาก เช่น ไฟถนน ไฟในบริเวณที่ต้องการความส่องสว่างประมาณ 5-30 ลักซ์ และอายุการใช้งานประมาณ 18,000-24,000 ชั่วโมง มีขนาดวัตต์ 50, 70, 100, 150, 250, 400 และ 1,000 วัตต์

หลอดไอปรอทความดันสูง หรือที่ชาวบ้านเรียกวา‹ หลอดแสงจันทร์ และมีประสิทธิผลสูงพอกับหลอดฟลูออเรสเซ็นต์คือ มีประสิทธิผลประมาณ 30-60 ลูเมนต่อวัตต์ แสงที่ออกมามีความถูกต้องของสีประมาณ 60 % ส่วนใหญ่ใช้แทนหลอดฟลูออเรสเซ็นต์ เมื่อต้องการกำลังไฟ (วัตต์) สูงๆในพื้นที่ที่มีเพดานสูง อุณหภูมิสีประมาณ 4,000 -6,000 เคลวิน แล้วแต่ชนิดของหลอด และอายุการใช้งานประมาณ 20,000-24,000 ชั่วโมง มีขนาดวัตต์ 50, 80, 125, 250, 400, 700 และ 1,000 วัตต์

หลอดเมทัลฮาไลด์ เหมือนกับหลอดปล่อยประจุอื่นๆ แต่มีข้อดี คือ มีสเปกตรัมแสงทุกสีทำให้สีที่ได้ทุกชนิดเดน‹ ภายใต้หลอดชนิดนี้ นอกจากความถูกต้องของสีสูงแล้วแสงที่ออกมาก็อาจมีอุณหภูมิสีตั้งแต่ 3,000-4,500 เคลวิน (ขึ้นอยู่กับขนาดของวัตต์) ส่วนใหญ่ นิยมใช้กับสนามกีฬาที่มีการถ่ายทอดโทรทัศน์มีอายุการใช้งานประมาณ 8,000-15,000 ชั่วโมง. และมีขนาดวัตต์  100, 125, 250, 300, 400, 700 และ 1,000 วัตต์ 

หลอดแอลอีดี (LED) หลอดชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า Light Emitting Diode เรียกย่อๆ ว่า LED เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตจากสารกึ่งตัวนำ มีลักษณะโครงสร้างภายในเป็นรอยต่อของสาร p และสาร n หรือที่เราเรียกว่า pn Junction เหมือนกับไดโอด สีของแสงที่เปล่งออกมานั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของสารกึ่งตัวนำที่ใช้หลอดชนิดนี้ใช้งานกับไฟฟ้ากระแสตรง ดังนั้นหากจะนำมาใช้ในอาคารต้องมีอุปกรณ์แปลงไฟฟ้า กระแสสลับให้เป็นกระแสตรงก่อนการใช้งานหลอด LED มีค่าประสิทธิผลอยู่ที่ประมาณ 40 ถึง 45 lm/W การเพิ่มกำลังการส่องสว่างของ LED ทำได้โดยการต่อ LED เล็กๆ หลายหลอดไว้บนแผงเดียวกัน โดยมักจะนำมาใช้แทนหลอดทังสเตนฮาโลเจน หรือนำไปใช้เป็นไฟส่องเฉพาะจุด เนื่องจากไม่มีการแผ่รังสียูวีและอินฟราเรด - See more at: http://www.buildernews.in.th/page.php?a=10&n=268&cno=7923#sthash.L2lnsBKm.dpuf

อุณหภูมิสี (Color Temperature)

การบอกสีทางด้านการส่องสว่างมักบอกด้วยอุณหภูมิสี ซึ่งหมายถึงสีที่เกิดจากการเผาไหมŒวัสดุสีดำซึ่งมีการดูดซับความร้อนได้สมบูรณด้วยอุณหภูมิที่กำหนด เช่น หลอดฟลูออเรสเซ็นต์คูลไวท์มีอุณหภูมิสี 6500 องศาเคลวิน หมายถึง เมื่อเผาวัตถุสีดำให้ร้อนถึงอุณหภูมิ 6500 เคลวิน วัตถุนั้นจะเปล่งแสงออกมาเป็นสีคูลไวท์หรือขาวปนน้ำเงิน เป็นต้น ตัวอย่างอุณหภูมิสีของหลอดต่างๆ เป็นดังนี้

เทียนไข 1900 เคลวิน
หลอดทังสเตนฮาโลเจน 2700 เคลวิน
หลอดอินแคนเดสเซ็นต์ 2800 เคลวิน
หลอดฟลูออเรสเซ็นต์
    - เดย์ไลท์ (Daylight) 6500 เคลวิน
    - คูลไวท์ (Cool White) 4500 เคลวิน
    - วอร์มไวท์ (Warm White) 3500 เคลวิน

ค่าประสิทธิผล (Effi cacy)
หมายถึง ปริมาณแสงที่ออกมาต่อวัตต์ที่ใช้ (ลูเมนต่อวัตต์) หลอดที่มีค่าประสิทธิผลสูง หมายความว่าหลอดนี้ให้ปริมาณแสงออกมามากแต่ใช้วัตต์ต่ำตัวอย่างค่าประสิทธิผลของหลอดไฟชนิดต่างๆ เช่น หลอดอินแคนเดสเซ็นต์ 5-13 ลูเมน/วัตต์ หลอดทังสเตนฮาโลเจน 12-22 ลูเมน/วัตต์ หลอดฟลูออเรสเซ็นต์ 50-90 ลูเมน/วัตต์หลอดแสงจันทร์ 35-80 ลูเมน/วัตต์ หลอดแสงจันทร์แบบไม่มีบัลลาสต์ 30-60 ลูเมน/วัตต์หลอดแสงจันทร์แบบมีบัลลาสต์ 30-60 ลูเมน/วัตต์ หลอดเมตัลฮาไลด์ 60-120 ลูเมน/วัตต์หลอดโซเดียมความดันสูง 70-130 ลูเมน/วัตต์ หลอดโซเดียมความดันต่ำ 100-180 ลูเมน/วัตต์

ความถูกต้องของสี (Color rendering) หมายถึง สีที่ส่องไปถูกวัตถุให้ความถูกต้องของสีมากน้อยเพียงใด มีหน่วยเป็น เปอร์เซ็นต์หลอดที่มีค่าความถูกต้อง 100% หมายความว่าเมื่อใช้หลอดนี้ส่องวัตถุชนิดหนึ่งแล้ว สีของวัตถุที่เห็นไม่มีความเพี้ยนของสี ตัวอย่างค่าดัชนีความถูกต้องของสีของหลอดไฟชนิดต่างๆ ชนิดของหลอด CRI (Color Rendering index) เช่น หลอดอินแคนเดสเซ็นต์ 100 CRI หลอดทังสเตนฮาโลเจน 100 CRI หลอดฟลูออเรสเซ็นต์ 60-90 CRI หลอดแสงจันทร์ 80-90 CRI หลอดแสงจันทร์แบบมีบัลลาสต์ 40-60 CRI หลอดเมตัลฮาไลด์ 40-60 CRI หลอดโซเดียมความดันสูง 60-90 CRI หลอดโซเดียมความดันต่ำ 30-50 CRI

นอกจากนี้ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโคมไฟฟ้าที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอีกเช่นกัน

        1. ความปลอดภัยของโคม โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานต้องได้รับมาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ด้วย เช่น ต้องไม่มีคมจนอาจเกิดอันตราย ต้องมีระบบการต่อลงดินในกรณีที่ใช้กับฝ้าสูงเพื่อไม่เป็นอันตรายกับคนที่มาเปลี่ยนหลอด
        2. ประสิทธิภาพของโคมไฟฟ้า (Luminaire Efficiency) โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานหมายถึงโคมที่มีประสิทธิภาพของโคมสูงที่สุด คือ ให้ปริมาณแสงออกมาจากตัวโคมเมื่อเทียบกับปริมาณแสงที่ออกจากหลอดให้มีค่าสูงที่สุด
        3. ค่าสัมประสิทธิ์การใช้งานของโคมไฟฟ้า (Coefficients of Utilization) ค่าที่ได้จากการวัดประสิทธิภาพของโคม โดยที่รวมผลของความสูงและสัมประสิทธิของการสะท้อนของผนังและเพดานโดยผู้ผลิต
        4. แสงบาดตาของโคม (Glare) เป็นค่าที่แสดงคุณภาพแสงของโคม ต้องเลือกโคมที่มีแสงบาดตาอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
        5. กราฟการกระจายแสงของโคม (Distribution Curve) โคมมีหลายชนิดด้วยกันแต่ละโคมก็มีกราฟกระจายแสงของโคมต่างกัน การนำโคมไปใช้ต้องเลือกกราฟกระจายแสงของโคมที่เหมาะสมกับงาน
        6. การระบายความร้อนของโคม โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานควรจะมีการระบายความร้อนได้ดี ถ้ามีอุณหภูมิสะสมในโคมมากเกินไปอาจทำให้ปริมาณแสงที่ออกจากหลอดลดลง เช่น โคมไฟส่องลงหลอดคอมแพคก์ถ้าไม่มีการระบายความร้อนที่ดีปริมาณลดลงถึง 40% เป็นต้น
        7. อายุการใช้งาน โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานต้องพิจารณาอายุการใช้งานด้วย เช่น โคมต้องทำด้วยวัสดุที่สามารถใช้งานได้นานตามที่ต้องการโดยไม่ผุกร่อนและไม่มีการเปลี่ยนรูปเมื่อมีการบำรุงรักษาเนื่องจากการเปลี่ยนหลอดหรือทำความสะอาด
        8. สถานที่ติดตั้ง การเลือกใช้โคมแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับว่าต้องการนำไปใช้งานอะไรบ้างต้องการคุณภาพแสงมากน้อยเพียงใด หรือเน้นในเรื่องของปริมาณแสงแต่เพียงอย่างเดียว ต้องมีการป้องกันทางกล ป้องกันน้ำ ฝุ่นผงมากน้อยเพียงใด

โดยเราจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันการออกแบบแสงสว่างส่วนใหญ่จะเน้นถึงการประหยัดพลังงาน จึงมีการเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED เพื่อการตกแต่งและการใช้งานภายในอาคารกันมากขึ้น

ในปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่ได้เข้ามาให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้หลอด LED ที่ประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนหันมาสนใจการประหยัดพลังงานด้วยการหันมาใช้หลอดประหยัดไฟกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าแสงสว่างแล้วยังสามารถช่วยรัฐลดการลงทุนด้านโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่งรวมถึงการลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้จากอาคารหลายๆ แห่งภายในเมือง

โดยบริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างอย่างครบวงจร นับตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า นอกจากนี้บริษัทยังมีบริการเสริมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด อาทิ แนะนำ การใช้ผลิตภัณฑ์รวมทั้งออกแบบระบบแสงสว่างให้เหมาะกับ ลักษณะของงาน ตลอดจนการให้บริการเช่าผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่าง และระบบไฟฟ้าแสงสว่างสำหรับงานต่างๆ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีความหลากหลายและครบครันสามารถรองรับความต้องการของลูกค้าที่ใช้ไฟฟ้าแสงสว่างได้ทุกกลุ่ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังคอยตอบสนองการออกแบบแสงสว่างเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ได้กล่าวถึงแนวโน้มในอนาคตของบริษัทฯ ว่า “บริษัทฯพร้อมเดินหน้าขยายฐานตลาดหลอด LED ประหยัดพลังงานอย่างเต็มตัว ทั้งตลาดค้าส่งตลาดค้าปลีก และตลาดลูกค้าองค์กร ด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวกำลังได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างดีเยี่ยมเนื่องจากเป็นนวัตกรรมไฟฟ้าแสงสว่างล่าสุดและสามารถประหยัดพลังงานได้มากที่สุด สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ประกอบกับบริษัทฯ มีความพร้อมทั้งโรงงานการผลิต เทคโนโลยีรวมทั้งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ โดยได้สร้างโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์ LED ขึ้น ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งเป็นโรงงานแรกที่ผลิตหลอด LED ในประเทศไทย และพัฒนาสินค้าลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จนสามารถรองรับได้ทุกความต้องการของลูกค้า

ปัจจุบันเทคโนโลยี หลอดไฟLED ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วประสิทธิภาพหลอดไฟเพิ่มสูงขึ้นและราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ LED ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้ประกอบการรวมทั้งสถาบันต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าแสงสว่างคาดการณ์กันว่าภายในปี 2559 ผลิตภัณฑ์ LED จะมีส่วนแบ่งตลาดถึง 45% ของตลาดผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างทั้งหมดซึ่งหมายถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลอด LED ซึ่ง L&E ฐานะผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างของไทยและภูมิภาคอาเซียน เล็งเห็นถึงโอกาสดังกล่าวและพร้อมจะรองรับกับทุกความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มค้าส่ง กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับทุกความต้องการของลูกค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น ในราคาที่สมเหตุสมผล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น บริษัทฯ กำลังจะสร้างโรงงานแห่งใหม่ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในปี 2557 เพื่อรองรับกับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย”

Monday, July 10, 2000

ความทันสมัยของโคมไฟแขวนเพดาน






สุบีเนย์ มัลโฮตรา นักออกแบบจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย พยายามขจัดสิ่งกวนใจภายในที่อยู่อาศัย 2 สิ่ง ที่ต้องพบเห็นในชีวิตประจำวัน และถือเป็นสิ่งที่ขวางหูขวางตาอยู่ไม่น้อย สิ่งที่ว่านั่นก็คือระบบรักษาความปลอดภัยและเครื่องตรวจจับควัน ที่เด่นออกมาจากเพดานห้อง และขัดกับการดีไซน์อันสวยสดงดงามอย่างไม่น่าให้อภัย แม้จะเป็นสิ่งจำเป็นมากก็ตาม 

ความรู้สึกขัดหูขัดตาดังกล่าว จึงนำมาซึ่งการออกแบบโคมไฟแขวนเพดาน ที่มองผิวเผินดูเหมือนโคมไฟที่ทำจากการเป่าแก้วทั่วไป แต่สิ่งพิเศษที่ซ่อนอยู่ภายในการดีไซน์สุดเก๋ คือเทคโนโลยีเตือนภัยที่จำเป็นๆ สำหรับติดตั้งในอาคารสำนักงาน และที่อยู่อาศัย เทคโนโลยีที่รวมอยู่ในโคมไฟแขวนนี้ประกอบด้วย สัญญาแจ้งเตือนควันไฟ ตรวจจับความร้อนเตือนไฟไหม้ และการงัดแงะเข้าสู่ภายใน ส่วนการทำงานของโคมไฟเตือนภัยนี้ เชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สาย WiFi 

โคมไฟนี้นอกจากจะสวยแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตจากแก้วรีไซเคิล และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีก แถมยังมีเซลล์แสงอาทิตย์ สามารถเก็บกักพลังงานจากแสงอาทิตย์และนำมาใช้ได้ ช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ดี การออกแบบดังกล่าวช่วยแก้ปัญหาความไม่สวยงามเรียบร้อยของเพดาน เนื่องจากการติดตั้งเครื่องมือน่าตาไม่น่าดูชม ได้ด้วยการติดโคมไฟแขวนดีไซน์สะดุดตา ทั้งยังคงระบบรักษาความปลอดภัยให้ที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี