Thursday, December 22, 2011

ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับการประหยัดไฟฟ้า







ว่าด้วยเรื่องการประหยัด อาจรับรู้รับฟังมาจากหลากหลายสื่อ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำ แต่เคยถามตัวเองสักครั้งไหม สิง่ที่เรารับรู้รับฟังมานั้น เราท่านได้นำมาปฏิบัติกันมากน้อยเพียงไร ซึ่งมนุษย์เรามักดำเนินชีวิจในรูปแบบเดิมๆ หรือเอาแต่เรื่องของความสะดวกสบายส่วนเข้าตัวเข้าว่าจริงหรือไม่ ฉะนั้นเรื่องการประหยัดไฟฟ้าหรือพลังงานรูปแบบอื่น จึงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างไร แต่เป็นเรื่องเก่าที่เรานำมาเล่าใหม่เพื่อให้จำฝั่งใจนั้นเอง

อันที่จริง… เรื่องการประหยัดไฟฟ้านั้น อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่มีเรื่องของสภาพอากาศเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทวีปที่มีอากาศหนาว อากาศร้อน รวมถึงประเทศที่พัฒนาแล้วหรือประเทศอุตสาหกรรม ยกตัวอย่าง การใช้หลอดไฟในครัวเรือนของสหรัฐอเมริกามากกว่ายุโรป 3 เท่า ใช้ตู้เย็นมากกว่ายุโรป 2 เท่า ซึ่งแต่ละทวีปหรือแต่ละประเทศมีการใช้ไฟฟ้ามากน้อยต่างกันไม่ได้ชี้ว่าจะมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากหรือน้อยกว่ากัน แต่สิ่งที่บ่งชี้ถึงการใช้ไฟฟ้า คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ว่ามีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่ามากน้อยเพียงไร

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงจะกินไฟน้อยกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ 2-10 เท่า ทั้งที่มีการทำงานเหมือนกัน ซึ่งการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัด จะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อปีได้เป็นจำนวนมาก โดยได้รับความสะดวกสบายเหมือนเดิมประเทศไทยและอีกหลายประเทศมีกฎข้อบังคับที่ต้องติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพไว้ในเครื่องใช้แทบทุกประเภท โดยในประเทศไทยใช้ฉลากตัวเลข 1, 2, 3, 4, 5 เป็นตัวบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของการประหยัดพลังงาน ในยุโรปรูปแบบฉลาก A++ หมายถึง ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด รองลงไปก็คือ A+, A, B, D ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพที่ลดหลั่นลงไปตามลำดับ ในสหรัฐอเมริกามีการใช้สัญลักษณ์ดาวในฉลากพลังงาน เพื่อบอกถึงประสิทธิภาพการประหยัดไฟฉลากเบอร์ 5 หมายถึง ประหยัดไฟได้มากที่สุดสำหรับประเทศไทย แน่นอนว่าอาจมีราคาที่สูงกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพต่ำ แต่ในระยะยาวจะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้มากโดยที่เราไม่รู้ตัว

อีกหนึ่งตัวแปลที่หลายคนมองข้ามกับการสูญเสียจากการ Standby เครื่องใช้ไฟฟ้าไว้ ซึ่งถือเป็นการสูญเสียพลังงานอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าในปัจจุบันจะกินไฟแม้ขณะที่ปิดเครื่อง โดยเฉพาะ ทีวี เครื่องเล่น DVDเครื่องเสียง จอคอมพิวเตอร์ กล่องเคเบิล และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ จะมีการเสียบปลั๊กทิ้งไว้เสียเป็นส่วนใหญ่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเรียกใช้งาน หากเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ทางออกที่ดีที่สุด คือ การหาซื้อเครื่องใช้ที่กินไฟในการใช้พลังงานสำรองต่ำๆ ซึ่งจะระบุการใช้พลังงานสำรองไว้ในคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์และสามารถตรวจสอบได้ก่อนซื้อ และสิ่งที่หลายคนยังไม่ทราบ คือ ค่าใช้จ่ายของพลังงานที่เสียไปในโหมด Standby ตลอดอายุการใช้งานอาจสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ เลยทีเดียว

เชื่อหรือไม่ว่า การใช้ไฟฟ้าที่สิ้นเปลือง เป็นสาเหตุก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้เพราะไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นพลังงานที่เกิดจากการเผาผลาญถ่านหินน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องนำเข้ามา กระบวนการพวกนี้จะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และมลพิษทางอากาศ ดังนั้น แค่ประหยัดไฟก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว

ฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับการที่เราจะใส่ใจในเรื่องของการประหยัดไฟฟ้าการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับประเทศไทยนั้น อย่างที่ภาครัฐสนับสนุนและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง จนติดตาติดใจว่า การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าควรมองหาฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นหลัก แต่มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกอื่นๆให้เราเลือกพิจารณาอีก คือ สัญลักษณ์ Green–Label ฉลากเขียว อันนี้เป็นโครงการที่มีการร่วมมือกันจากหลายฝ่าย โดยมีคณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพื่อที่จะพิจารณาออกฉลากเขียวนี้ให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย และสัญลักษณ์ Eco–Friendly หรือ Eco– Labelเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าสินค้านั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ ย่อยสลายง่าย นำไปรีไซเคิลได้ และอื่นๆ

อย่าเพิ่งเบื่อกับการนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เพราะเรื่องของพลังงานเป็นเรื่องที่เราสามารถพูดถึงกันได้หลายช่วงอายุคน เพราะยังไงเสีย โลกกลมๆ ใบนี้ยังต้องพึ่งพาพลังงานต่อไปอีกนาน การที่เราจะประหยัดพลังงานหรือไฟฟ้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในกระเป๋านั้น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก คิดเสียว่า ทำก่อน ก็ประหยัดก่อน จริงหรือไม่?

No comments:

Post a Comment